ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ เอมัน เดฟเลอรา

ทันทีที่ขึ้นบริหารประเทศเขาพยายามที่จะยกเลิกพันธะต่างๆที่เสรีรัฐไอร์แลนด์ทำขึ้นต่อประเทศอังกฤษ เช่น ยกเลิกการปฏิญาณที่จะจงรักภักดีต่ออังกฤษ การลิดรอนอำนาจของข้าหลวงใหญ่อังกฤษในไอร์แลนด์ ล้มเลิกวุฒิสภาซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล ยุติการส่งคดีที่อุทธรณ์ในไอร์แลนด์ไปให้สภาองคมนตรีในอังกฤษพิจารณา และยกเลิกการจ่ายค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ดินในไอร์แลนด์ให้แก่อังกฤษ

และที่สำคัญที่สุดคือการที่เขาพยายามให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นในช่วงที่อังกฤษกำลังประสบวิกฤตการณ์สละราชสมบัติของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ในปี พ.ศ. 2479 เพื่อเพิกถอนรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ฉบับเดิม ซึ่งในที่สุดก็ผ่านการรับรองโดยสาธารณชน ใน พ.ศ. 2480 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ล้มเลิกเสรีรัฐไอร์แลนด์และสถาปนาไอร์แลนด์ขึ้นเป็นรัฐเอกราชที่มีอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์ โดยมีชื่อว่า "แอรา" (Eire)

อังกฤษตอบโต้โดยการขึ้นอัตราภาษีสินค้าจากไอร์แลนด์ ทำให้สินค้าส่งออกหลักของไอร์แลนด์ เช่น ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และนม ได้รับผลกระทบกระเทือนมาก เกิดเป็นความขัดแย้งทางด้านเศรษฐกิจระหว่างแอรากับอังกฤษ เขาจึงพยายามบังคับใช้แผนการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด ลดเงินเดือนข้าราชการ และประกาศใช้พิกัดอัตราภาษีเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศ

กระทั่งเมื่อใกล้จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลอังกฤษซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีเนวิลล์ เชมเบอร์เลน เห็นว่าควรยุติความขัดแย้งทางเศรษฐกิจกับแอราโดยเร็วที่สุด จึงตามมาด้วยการเจรจาระหว่างแอรากับอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2481 ผลของการเจรจาคือแอรายอมตกลงจ่ายเงิน 10 ล้านปอนด์เพื่อชดเชยค่าธรรมเนียมที่ดินที่เคยจ่ายแก่อังกฤษ แลกกับการที่อังกฤษยอมที่จะถอนตัวออกจากเมืองท่าโคฟ เบียร์เฮเวน ลอกสวิลลี ที่อังกฤษครอบครองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาประกาศยโนบายเป็นกลางและยึดมั่นมาโดยตลอด ทั้งที่ได้รับแรงกดดันจากอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้เขาได้รับความพอใจจากชาวไอริชเป็นจำนวนมาก พรรคของเขาจึงได้รับการเลือกตั้งให้บริการประเทศต่อไปอีกหลายสมัย

ในเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2491 รัฐสภาแห่งแอราได้ผ่านพระราชบัญญัติแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งทำให้แอรามีสถานะเป็นสาธารณะรัฐอย่างเป็นทางการและยุติการเป็นสมาชิกเครือจักรภพแห่งประชาชาติด้วย รัฐสภาอังกฤษได้ให้การรับรองเอกราชของสาธารณรัฐใหม่นี้ด้วยดี โดยการผ่านร่างพระราชบัญญัติไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2492